หนังแท้ที่นิยมใช้ทำกระเป๋า มีกี่ประเภท และมีอะไรบ้าง ?

[Panitsupa]

หนังแท้ที่นิยมใช้ทำกระเป๋า มักเป็นหนังจากสัตว์ที่มีคุณภาพสูง มีความทนทาน และให้ผิวสัมผัสที่สวยงามตามธรรมชาติ โดยในอุตสาหกรรมเครื่องหนัง จะมีการเลือกใช้หนังแท้หลากหลายประเภท เพื่อให้เหมาะกับดีไซน์ และจุดประสงค์การใช้งานของกระเป๋าแต่ละแบบ ซึ่งสามารถจำแนกหนังแท้ที่นิยมใช้ทำกระเป๋าออกได้เป็นหลายประเภท ดังนี้



[ol]

• หนังวัว (Cowhide Leather)

[/ol]
หนังวัว เป็นหนังแท้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการทำกระเป๋า เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน และมีพื้นผิวที่สามารถทำผิวสัมผัสได้หลายแบบ เช่น ผิวเรียบ ผิวด้าน หรือผิวมัน หนังวัวแบ่งย่อยได้อีก เช่น


[ul]

• Full Grain Leather: หนังชั้นบนสุดที่ยังคงรอยธรรมชาติเอาไว้มากที่สุด มีความแข็งแรง และทนทานสูง
• Top Grain Leather: หนังวัวที่ผ่านการขัดผิวบางส่วนให้เรียบขึ้น มีความเนียน และดูหรูหรา
• Corrected Grain Leather: หนังที่ผ่านการแต่งผิวให้เรียบ และมีลวดลายเทียม เพื่อปกปิดร่องรอยต่าง ๆ

[/ul]


[ol]

• หนังควาย (Buffalo Leather)

[/ol]
หนังความมีความหนา และแข็งแรงมากกว่าหนังวัว ผิวหยาบกว่าแต่ทนต่อแรงเสียดสีดี นิยมนำมาใช้ทำกระเป๋าที่เน้นความสมบุกสมบัน เช่น กระเป๋าเดินทาง หรือกระเป๋าแคมปิง เป็นต้น
[ol]

• หนังแพะ (Goat Leather)

[/ol]
หนังแพะ จะมีน้ำหนักเบา และมีความนิ่มกว่าหนังวัว มักจะเห็นลายผิวชัดเจน มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับกระเป๋าใบเล็ก หรือกระเป๋าสตางค์



[ol]

• หนังแกะ (Sheep Leather)

[/ol]
หนังแกะ จะนุ่มมากที่สุดในบรรดาหนังสัตว์ โดยนิยมใช้ทำกระเป๋าที่ต้องการความรู้สึกหรูหรา และสัมผัสนุ่ม เช่น กระเป๋าถือผู้หญิงระดับพรีเมียม เป็นต้น
[ol]

• หนังหมู (Pigskin Leather)

[/ol]
หนังหมู เป็นหนังที่มีรูระบายอากาศตามธรรมชาติ โดยนิยมใช้ในกระเป๋าบางรุ่นที่ต้องการความทนทาน และระบายอากาศได้ดี นอกจากนี้ ยังมีราคาย่อมเยากว่าหนังวัว
[ol]

• หนังม้า (Horsehide Leather)

[/ol]
หนังม้าแม้จะหายาก และราคาสูง แต่หนังม้ามีความแข็งแรง เหนียว และทนต่อแรงดึงดีเยี่ยม เหมาะกับกระเป๋าที่ต้องการคุณสมบัติการใช้งานที่ทนทานพิเศษ
[ol]

• หนังเอ็กโซติก (Exotic Leather)

[/ol]
ตัวอย่างเช่น หนังงู หนังจระเข้ หนังปลากระเบน หรือหนังนกกระจอกเทศ โดยมักใช้ในกระเป๋าแฟชั่น หรือแบรนด์หรู เพราะหนังประเภทนี้จะให้ลวดลายโดดเด่น มีมูลค่าสูง และต้องการความพิถีพิถันในการดูแล

ขอบคุณข้อมูลจาก https://suvinocorp.com/